ความสำคัญของเห็ดรา
เห็ดและราเป็นสิ่งมีชีวิตที่จัดรวมอยู่ในกลุ่มเชื้อรา
นักวิทยาศตร์ได้จัดให้อยู่ในอาณาจักรของสิ่งมีชีวิตที่แยกจากพืช สัตว์
และแบคทีเรีย โดยจัดให้อยู่ใน Kingdom Mycota หน้าที่สำคัญของกลุ่มเชื้อรา คือ
การรักษาสมดุลของชีวิตในการนำสารอินทรีย์ต่างๆ มาใช้ใหม่ หน้าที่เช่นนี้แม้ว่าจะคล้ายกับหน้าที่ของเชื้อแบคทีเรียแต่มีข้อแตกต่างคือ
เชื้อแบคทีเรียส่วนใหญ่จะเจริญเติบโตจากพื้นผิวภายนอกสู้พื้นที่ภายใน ซึ่งเป็น
กระบวนการย่อยสลายที่เกิดได้ช้ามากหากเป็นวัตถุชิ้นใหญ่ๆ
ตรงกันข้ามกับเชื้อราซึ่งเจริญเติบโตในรูปของเส้นใยที่มีลักษณะเป็นสายคล้ายเส้นด้ายสามารถแทรกเข้าไปในวัตถุแข็งๆ
เช่น ไม้ และสามารถย่อยสลายจากภายในออกมาภายนอก
สิ่งมีชีวิตทั้งสองกลุ่มนี้ช่วยกันทำให้เกิดการย่อยสลายซากสิ่งมีชีวิต
ถึงแม้มีเชื้อราจำนวนหนึ่งหลุดรอดจากธรรมชาติจากที่เคยอยู่ในดิน
มาทำให้เกิดโรคในคน หรือบางครั้งอาจสร้างปัญหาให้กับเกษตรกรโดยทำให้เกิดโรคในพืชหรือสร้างปัญหาให้แก่เราเมื่อมันเข้าทำลายเครื่องหนัง
ย่อยสลายไม้ หรือปนเปื้อนในอาหาร
ในทางกลับกันเรานำเชื้อราอีกหลายชนิดมาใช้ในอุตสาหกรรม เช่น
การใช้เชื้อราในการผลิตอาหาร เครื่องดื่ม ยาปฏิชีวนะ และวิตามิน สำหรับเห็ดขนาดใหญ่เรานำมาประกอบอาหารหรือเป็นยาสมุนไพรก็ได้
ในประเทศไทยสามารถพบเห็ดได้ในเขตป่าเขาที่มีฝนตกชุกพอประมาณ จึงพบมากในภาคใต้
ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จากการสำรวจพบว่าประเทศไทยมีเห็ดประมาณ 450 ชนิด คิดเป็นร้อยละ 0.5 ของเห็ดที่มีอยู่บนโลก
ซึ่งประมาณ 100,000 ชนิดพันธุ์
เราสามารถแบ่งความสำคัญของเห็ดได้ดังนี้
1. ด้านสิ่งแวดล้อม
เห็ดมีความสำคัญมากด้านสิ่งแวดล้อม
โดยเฉพาะช่วยย่อยสลายซากพืชซากสัตว์และมูลสัตว์ เป็นราเบียดกับต้นไม้หรือเห็ด
หรือราด้วยกันเอง การย่อยสลายสิ่งมีชีวิตอื่นของเห็ดเป็นกระบวนการหนึ่งที่เปลี่ยนรูปซากสิ่งมีชีวิตให้กลายเป็นธาตุอาหารหลายๆ
ชนิด และส่งต่อให้กับสิ่งมีชีวิตอื่นได้ใช้ประโยชน์ต่อไปโดยเฉพาะพืช
2. ด้านอาหาร
ปัจจุบันเห็ดราเป็นอาหารที่นิยมรับประทานกันหลายชนิด ทั้งแบบสด
แบบกระป๋อง แบบตากแห้งเช่น เห็ดหอม เห็นหูหนู เป็นต้น
เห็ดเป็นแหล่งอาหารที่มีโปรตีนคุณภาพสูง มีธาตุเหล็ก แคลเซียม ฟอสฟอรัส
วิตามินบีรวม และกรดอะมีโนต่างๆ ที่ร่างกายต้องการ
โดยเฉพาะกรดอะมิโนกลูตามิคที่ช่วยเพิ่มความอร่อยในการการรับประทานอาหาร
นอกจากนี้เห็ดยังเป็นอาหารที่ปราศจากไขมันมีปริมาณน้ำตาลและเกลือต่ำ
เห็ดที่กินได้
จัดเป็นอาหารที่มีคุณค่าเทียบเท่ากับกินผัก ดอกเห็ดมีน้ำเป็นองค์ประกอบถึงร้อยละ 90 นอกจากนั้นเป็นโปรตีน ไขมัน เกลือแร่ และวิตามิน
ซึ่งมีวิตามินบี 1 และ วิตามินบี 2 ยกเว้นเห็ดสีเหลือง
มีวิตามินเอมากกว่าชนิดอื่นๆ แต่เห็ดจัดเป็นอาหารที่ย่อยยาก เนื่องจากมีเส้นใยมาก
ผู้ที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับระบบย่อยอาหารไม่ควรรับประทานมากเกินไป เห็ดแบ่งเป็น 2
กลุ่ม คือ
2.1 เห็ดการได้ (edible mushroom) เช่น เห็ดหอม (ภาพที่
1) เห็ดฟาง (ภาพที่ 2)
มีรสหวานและกลิ่นหอมชวนรับประทาน บางชนิดมีกลิ่นเหม็นทำให้เวียนศีรษะ เช่น เห็ดร่างแห
(ภาพที่ 3) บางชนิดมีรสขม เช่น เห็ดเสม็ด (ภาพที่ 4) บางชนิดมีรสเผ็ดชา เช่น เห็ดขิง (ภาพที่ 5)
ภาพที่ 1 เห็ดหอม
Lentinus edodes (Berk.) Sing
ภาพที่
2 เห็ดฟาง
Volvariella volvacea (Bull. ex. Fr.) Sing
ภาพที่ 3 เห็ดร่างแห
Dictyophoro indusiata (Pers.) Fisch.
ภาพที่ 4 เห็ดเสม็ด
Tylopilus subrobrunneus Mazzer &
Smith
ในประเทศจีนนำเห็ดร่างแหมาผลิตเป็นการค้า
โดยตัดฐานดอกและเยื่อหุ้มดอกออกแล้วตากแห้งใช้เป็นอาหาร เรียกว่า เยื่อไผ่
ภาพที่ 5 เห็ดขิง
Lactarius piperatus (Fr.) S.F. Gray
ภาพที่ 6 เห็ดข่า
Lactarius flavidulus Imai
2.2 เห็ดมีพิษ (poisonus mushroom หรือ toadstool) มีหลายชนิด ชนิดที่มีพิษร้ายแรงถึงตาย เช่น เห็ดระโงกหิน (ภาพที่ 7) บางชนิดมีพิษทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน เช่น
เห็ดหัวกรวดครีบเขียวอ่อน (ภาพที่ 8) เห็ดแดงน้ำหมาก (ภาพที่
9)
บางชนิดกินเพียงเล็กน้อยทำให้เกิดจินตนาการเป็นภาพหลอนคล้ายเสพยาเสพติด
เรียกเห็ดชนิดนี้ว่า เห็ดโอสถลวงจิต (hallucinogenic mushroom) เช่น เห็ดขี้ควาย (ภาพที่ 10)
ภาพที่ 7 เห็ดระโงกหิน
Amanita verna (Bull. ex. fr.) Vitt.
ภาพที่
8 เห็ดหัวกรวดครีบเขียวอ่อน
Chlorophyllum
molybdites (Meyr. ex. Fr.)
ภาพที่ 9 เห็ดแดงน้ำหมาก
Russula emetica
(Schaeff. ex. Fr.) Pers. Fr. Gray.
ภาพที่ 10 เห็ดขี้ควาย
Psilocybe cubensis Earle
3. ด้านสมุนไพร
เห็ดที่ขึ้นชื่อในด้านยารักษาโรคคือ
เห็ดหลินจือ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันอีกอย่างหนึ่งว่า “เห็ดพันปี”
เป็นเห็ดสมุนไพรที่หายาก มีถิ่นกำเนิด อยู่ในป่าเขาของประเทศจีน
นอกจากใช้เป็นยาโดยตรงแล้วประเทศญี่ปุ่น
ยังนิยมนำเห็ดมาปรุงเป็นน้ำแกงและอาหารบำรุงร่างกาย
ซึ่งมีรายงานวิจัยเกี่ยวกับเห็ดมากกว่า 30 ปี ที่ยืนยันว่าในเห็ดมีสารบางอย่างที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันและลดความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือด
4. ด้านเศรษฐกิจ
เห็ดหลายชนิดได้รับการส่งเสริมให้เพาะเลี้ยงเป็นอุตสาหกรรมในครัวเรือน
เช่น เห็ดฟาง เห็ดนางฟ้า เห็ดหูหนู เห็ดเป๋าฮื้อ เห็ดกระด้าง เป็นต้น
มีประโยชน์มากเลย เป็นสมุนไพรด้วย
ตอบลบพึ่งเคยเห็นเห็ดร่างแห
ตอบลบเห็นเห็ดแล้วหิวเลย!
ตอบลบเห็นแล้วอยากกินอ่ะ
ตอบลบหิวๆๆ55+
ตอบลบ